“เจ้าท่า” กางแผน 10 ปีเสริมทรายชายหาดใต้-ตะวันออกหนุนเศรษฐกิจ
กรมเจ้าท่าสนองนโยบายเจ้ากระทรวงคมนาคม “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ-อธิรัฐ รัตนเศรษฐ์” พัฒนาชายฝั่งทะเลด้านการเสริมทราย แก้ปัญหาการกัดเซาะ ฟื้นฟูพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว
นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม รักษาราชการอธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า ได้มอบหมาย นายสมพงษ์ จิรศิริเลิศ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปฏิบัติการ เป็นประธานในพิธีส่งมอบพื้นที่เสริมทรายชายหาดจอมเทียน ที่แล้วเสร็จ 800 เมตร ของโครงการเสริมทรายชายหาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี 3,575 เมตร ให้เทศบาลตำบลนาจอมเทียน อย่างเป็นทางการเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ บริเวณหน้าชายหาดจอมเทียน ซอยนาจอมเทียน 2
ทั้งนี้ ชายหาดจอมเทียนเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดชลบุรี ปัจจุบันเกิดสภาพปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งอยู่ในขั้นวิกฤตรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้พื้นที่ชายหาดถดถอยและลดขนาดลงไปทุกปี
ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2558 กรมเจ้าท่าได้ว่าจ้างสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศึกษาวางแผนแม่บทและสำรวจออกแบบการเสริมทรายชายหาดจอมเทียน เพื่อแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในระยะยาว และรับฟังความคิดเห็นประชาชน ผู้ประกอบการ หน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้อง
สำหรับโครงการเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายหาดจอมเทียน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เฟส 1 ระยะทาง 3,575 เมตร กรมเจ้าท่าได้ว่าจ้างบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ดำเนินโครงการงานเสริมทรายตั้งแต่บริเวณนาจอมเทียน 4 จนถึงจอมเทียน 11 โดยใช้แหล่งทรายจากเกาะรางเกวียน ซึ่งเป็นทรายที่ใช้เสริมทรายชายหาดพัทยา ห่างจากชายหาดจอมเทียนไปทางทะเล 15 กิโลเมตร ทำให้จากเดิมที่มีชายหาดกว้าง 5 เมตร เปลี่ยนเป็นชายหาดกว้างขึ้นเฉลี่ย 51 เมตร มีความยาว 800 เมตร
การปรับปรุงเสริมทรายในครั้งนี้สามารถใช้เป็นพื้นที่สันทนาการและจัดกิจกรรมชายหาดต่าง ๆ ได้ดีกว่าเดิม ส่งผลให้เกิดรายได้ต่อประชาชนและภาคธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ผลศึกษาโครงการพบว่า การลงทุน 1 บาทจะได้ผลตอบแทนกลับมา 3.23 บาท คาดการณ์เวลา 25 ปี จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 28,042 คน ยกระดับภาพลักษณ์ท่องเที่ยวทั้งระบบของชายหาดพัทยา-จอมเทียน จากเดิมที่เป็นชายหาดท่องเที่ยวแบบแยกส่วน มาเป็นระบบชายหาดท่องเที่ยวของประเทศ
กรมเจ้าท่ามีโครงการเสริมทรายชายหาดจอมเทียนในส่วนที่เหลือความยาว 2.5 กิโลเมตร และในอนาคตมีแผนงานเสริมทรายชายหาดท่องเที่ยวในอีก 10 ปีข้างหน้า เช่น ชายหาดบางแสน ชายหาดสมิหลา ชายหาดชะอำ ชายหาดเขาหลัก ชายหาดบางเสร่ ชายหาดอ่าวดงตาล ชายหาดแสงจันทร์ ชายหาดปราณบุรี และชายหาดทรายรี เป็นต้น ระยะทางรวม 42 กิโลเมตร
ซึ่งการเสริมทรายชายหาดนอกจากจะเป็นการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะและฟื้นฟูชายหาดอย่างยั่งยืนแล้ว ยังช่วยส่งเสริมสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว และสร้างรายได้เป็นจำนวนมากให้กับประเทศอีกด้วย