อัพเดตการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกับภารกิจสร้างเมืองอัจฉริยะโซน EEC

ล่าสุด อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กำกับดูแลการท่าเรือแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการพัฒนาท่าเรืออัจฉริยะ (smart port) ในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง สู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ smart city

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ

งานนี้การท่าเรือฯร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ผลักดันนโยบายการบริหารการจราจร และการบูรณาการด้านข้อมูลเทคโนโลยีดิจิทัลภายในกรอบระยะเวลา 3 ปี เป้าหมายเชื่อมโยงข้อมูลการขนส่งหลากหลายรูปแบบ ทั้งทาง “ถนน เรือ ราง” ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สายการเดินเรือ ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ ผู้ประกอบการรถขนส่งสินค้า

โดยมีจุดเชื่อมโยงผ่านระบบเทคโนโลยีดิจิทัล ได้แก่ smart port traffic (ระบบจัดการข้อมูลการจราจร), smart port EDI (ระบบเชื่อมต่อ big data จากระบบต่าง ๆ), smart port payment (ระบบชำระเงินแบบ QR code)

เมืองอัจฉริยะในท่าเรือ

สำหรับโครงการพัฒนา smart city ในพื้นที่ท่าเรือแห่งชาติแหลมฉบัง ประกอบด้วย การส่งเสริมด้านการบูรณาการข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สายการเดินเรือ ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ กรมศุลกากร ผู้ประกอบการขนส่งสินค้า เพื่อพัฒนาระบบการบริหารจัดการท่าเรืออัจฉริยะ (smart port) และระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อช่วยบริหารเวลารถบรรทุกสินค้าเข้าออก (truck queue) เป็นต้น

ลดต้นทุนระบบโลจิสติกส์

ด้าน “เรือโทยุทธนา โมกขาว” รองผู้อำนวยการ สายบริหารการเงินและกลยุทธ์องค์กร รักษาการผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลมีข้อตกลงความร่วมมือเป็นเวลา 3 ปี หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับแรกในวันที่ 11 มกราคม 2565

ในอนาคตโครงการพัฒนา smart city จะเข้ามาช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการตู้คอนเทนเนอร์ ลดต้นทุนโลจิสติกส์ แก้ปัญหาจราจร ลดมลพิษ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับชุมชนโดยรอบท่าเรือแหลมฉบัง

 “การท่าเรือฯมีหน้าที่ผลักดันให้เกิดการบูรณาการข้อมูล สนับสนุนและส่งเสริมการนำร่องสู่การรวบรวมและเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อพัฒนาท่าเรืออัจฉริยะสำหรับท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมส่งเสริมให้มีการนำข้อมูลที่เกิดขึ้นไปวิเคราะห์ พัฒนาบริการต่อยอดเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการท่าเรือฯ และอุตสาหกรรมดิจิทัลต่อไป”